ข้อกำหนดและเงื่อนไขในการขนส่ง

 ข้อกำหนดและเงื่อนไขในการขนส่ง

  1. คำจำกัดความ

    คำศัพท์ต่อไปนี้ที่ใช้ในข้อตกลงและเงื่อนไขจะมีความหมายตามที่กำหนดไว้ด้านล่าง เว้นเสียแต่ว่าระบุไว้เป็นอย่างอื่นหรือบริบทเป็นอย่างอื่น

    1. “เรา” “พวกเรา” หรือ “ของเรา” หมายถึง บริษัท เคอรี่เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด พนักงาน ผู้รับเหมาช่วงและตัวแทน
    2. “คุณ” หรือ “ของคุณ” หมายถึงผู้ส่งสินค้า หรือผู้ส่งของ
    3. “จดหมาย” หมายถึงหนังสือหรือข่าวสารที่มีไปมาถึงกันโดยมีเจตจำนงให้เป็นประโยชน์เฉพาะระหว่างบุคคล หรือระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคล
    4. “ผู้ส่งสินค้า” หรือ “ผู้ส่งของ” หมายถึงบุคคลที่มีชื่อเป็นผู้ส่งสินค้าในใบนำส่งสินค้า
    5. “ผู้ส่ง” หมายถึงบุคคลที่ส่งพัสดุแก่เรา ผู้ส่งอาจไม่ใช่ผู้ส่งสินค้า
    6. “ผู้รับมอบ” หมายถึงบุคคลที่มีชื่อเป็นผู้รับมอบในใบนำส่งสินค้า
    7. “ผู้รับ” หมายถึงบุคคลหรือผู้รับพัสดุ เขา / เธออาจเป็นผู้รับมอบเอง หรือบุคคลอื่น ณ ที่อยู่ของผู้รับมอบ หรือสำนักงานบริหาร / นิติบุคคลตามที่อยู่ของผู้รับมอบ
    8. “พัสดุ” หมายถึงบรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อทั้งหมดที่ส่งให้แก่และรับโดยเราเพื่อการขนส่งภายใต้ 1 ใบนำส่งสินค้า
    9. “ใบนำส่งสินค้า” หมายถึงใบตราส่งหรือเอกสารอื่นที่เทียบเท่าในรูปแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับพัสดุ
    10. “ข้อตกลงและเงื่อนไข” หมายถึงข้อตกลงและเงื่อนไขในการขนส่งฉบับนี้ รวมถึงที่อาจได้รับการแก้ไขหรือเพิ่มเติมโดยเราเป็นครั้งคราว ไม่ว่าจะอยู่ในเอกสารฉบับนี้ หรือเอกสารอื่นใด
    11. “วันทำงาน” หมายถึงวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์ในราชอาณาจักรไทย อย่างไรก็ตามหากวันหยุดนักขัตฤกษ์ดังกล่าวเป็นวันจันทร์แทนวันหยุดราชการของวันเสาร์ที่ผ่านมา วันดังกล่าวจะถือว่าเป็นวันทำงาน
  2. การยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขของเรา

    เมื่อสั่งซื้อบริการของเราหรือส่งมอบสินค้าให้เรา คุณยอมรับข้อกำหนดในนามผู้จัดส่ง ผู้รับมอบ และบุคคลอื่นใดที่มีหรืออ้างว่ามีส่วนได้เสียกับพัสดุ ซึ่งคุณและบุคคลดังกล่าวจะผูกพันตามข้อตกลงและเงื่อนไข

  3. พัสดุต้องห้าม

    1. รายการต่อไปนี้ถือว่าเป็นพัสดุต้องห้าม และคุณตกลงที่จะ ไม่ส่งสินค้าใดๆ ต่อไปนี้เป็นพัสดุ
      1. สินค้าผิดกฎหมายหรือต้องห้ามตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
      2. สินค้าอันตรายรวมถึงสินค้าเสี่ยงอันตรายหรือเป็นพิษ วัตถุระเบิด อาวุธหรือปืน
      3. แบตเตอรี่รถทุกชนิดประเภทใช้งานแล้ว
      4. ยาสูบทุกชนิด บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
      5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
      6. ตราสารเงิน และตราสารเทียบเท่าเงินสด เช่น หุ้นและพันธบัตร
      7. บัตรเครดิต บัตรเดบิตหรือบัตรเงินสด
      8. เอกสารส่วนบุคคลที่ออกโดยหน่วยงานรัฐบาล เช่นบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ เป็นต้น
      9. จดหมาย และไปรษณียบัตร ทุกชนิด
      10. ทองแท่ง โลหะหรือหินมีค่า/กึ่งมีค่า
      11. ของสะสม เช่น โบราณวัตถุ งานศิลป์
      12. สัตว์ที่มีชีวิต
      13. ซากมนุษย์หรือสัตว์ ชิ้นส่วนของร่างกายหรืออวัยวะ
      14. การจัดส่งโดยไม่บรรจุหีบห่อที่เหมาะสมหรือเพียงพอ
      15. พัสดุบรรจุกล่องโฟม
      16. พัสดุที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าหรือความเสียหายแก่พัสดุ อุปกรณ์หรือบุคคลอื่น
      17. พัสดุที่มีผลรวมของความยาวความกว้างและความสูงมากกว่า 200 ซม. หรือหนักเกิน 25 กิโลกรัม หรือ
      18. พัสดุที่ต้องการให้เราได้รับใบอนุญาตพิเศษหรือใบอนุญาตสำหรับการขนส่ง การนำเข้าหรือส่งออก
    2. แม้จะมีบทบัญญัติอื่นใด เราจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียความเสียหายหรือการส่งมอบล่าช้าต่อรายการใดๆ ที่ระบุไว้ในข้อ 3.1
    3. คุณต้องชดใช้ค่าเสียหายในการเรียกร้องใดๆ และทั้งหมดแก่เรา รวมถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายอันเป็นผลจากการที่คุณฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับ หรือจากการส่งสินค้าใดๆ ที่ระบุไว้ในข้อ 3.1
  4. พัสดุที่ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้

    1. เราอาจยอมรับรายการดังต่อไปนี้ภายใต้เงื่อนไขบางประการ แต่เงื่อนไขการเรียกร้องก็แตกต่างจากปกติ
      1. อาหารแห้ง ลูกอม ช็อกโกแลต
      2. อาหารที่เน่าเปื่อยในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม
      3. บัตรกำนัล คูปอง บัตรของขวัญ
      4. ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว เช่น น้ำ น้ำมัน ครีม ซีรั่ม เจล ฯลฯ
      5. แบตเตอรี่รถยนต์ / รถจักรยานยนต์แบบน้ำใหม่
      6. พืชและต้นไม้
  5. การรับประกันและการชดใช้ค่าเสียหายของผู้ส่งสินค้า

    1. ผู้ส่งสินค้าต้องชดใช้ค่าเสียหายและทำให้เราไม่เป็นอันตรายจากความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ส่งสินค้าไม่ปฏิบัติตามการรับประกันต่อไปนี้
      1. พัสดุไม่ใช่รายการที่ระบุไว้ในข้อ 3.1
      2. ข้อมูลทั้งหมดจากผู้ส่งสินค้าหรือตัวแทนมีความถูกต้องและครบถ้วน
      3. ผู้ส่งสินค้าได้ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของศุลกากร การนำเข้า การส่งออกและอื่นๆ ที่ใช้บังคับทั้งหมด
      4. พัสดุถูกบรรจุอย่างเพียงพอและเหมาะสมเพื่อป้องกันความเสียหายในระหว่างการจัดส่ง
    2. ผู้ส่งสินค้าจะต้องตระหนักว่า ในกรณีที่เกิดการสูญเสียหรือความเสียหาย คำขอชดใช้ค่าเสียหายอาจไม่ได้รับการพิจารณาถ้าพัสดุเป็นรายการที่ระบุไว้ในข้อ 4
    3. ผู้ส่งสินค้าต้องระบุข้อมูลที่ถูกต้องในใบนำส่งสินค้า รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
      1. ชื่อ ที่อยู่ของผู้ส่งสินค้า (รวมทั้งรหัสไปรษณีย์) และหมายเลขติดต่อ
      2. ชื่อ ที่อยู่ของผู้รับมอบ (รวมทั้งรหัสไปรษณีย์) และหมายเลขติดต่อ
      3. ข้อมูลของพัสดุเช่น จำนวนแพ็คเกจ มูลค่าที่ระบุ จำนวนเงินเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) ถ้ามี
      4. ประเภทของบริการ และ
      5. คำแนะนำพิเศษอื่น ๆ (ถ้ามี)
    4. ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ผู้ส่งจะต้องแนบเอกสารประจำตัวส่วนบุคคล (เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง) ให้กับเจ้าหน้าที่ของเราเพื่อบันทึก
  6. การจัดส่งพัสดุ

    1. การจัดส่งจะถือว่าเสร็จสิ้นเมื่อพัสดุถูกส่งไปยังที่อยู่ของผู้รับมอบซึ่งระบุไว้ในใบนำส่งสินค้า แต่ไม่จำเป็นต้องมีชื่อผู้รับมอบอยู่
    2. พัสดุไม่สามารถส่งไปยังตู้ไปรษณีย์หรือรหัสไปรษณีย์
    3. ถ้าผู้รับมอบไม่พร้อมรับพัสดุตามที่อยู่ เราอาจจัดส่งพัสดุให้บุคคลอื่น ณ ที่อยู่ของผู้รับมอบ (เช่น เพื่อนร่วมงาน สมาชิกในครอบครัว ฯลฯ) พัสดุที่ถูกส่งไปยังที่อยู่ซึ่งมีพื้นที่รับของส่วนกลางอาจถูกส่งไปยังพื้นที่ดังกล่าว เช่น สำนักงานนิติบุคคล สำนักงานบริหาร ฝ่ายต้อนรับ ณ ที่อยู่ของผู้รับมอบ เพื่อความปลอดภัยของพัสดุ เราจะไม่จัดส่งพัสดุไปยังสถานที่ซึ่งไม่มีผู้รับ แม้จะได้รับการร้องขอจากผู้ส่งสินค้าและ / หรือผู้รับมอบ
    4. เราจะไม่ส่งมอบพัสดุไปยังที่อยู่อื่นนอกเหนือจากที่อยู่ของผู้รับมอบซึ่งระบุไว้ในใบนำส่งสินค้า เว้นแต่จะได้คำแนะนำจากผู้ส่งสินค้า ผู้รับมอบจะต้องติดต่อผู้ส่งสินค้าเพื่อขอข้อมูลดังกล่าว
  7. หลักฐานการจัดส่ง

    1. จำเป็นต้องมีลายเซ็นจากผู้รับมอบเพื่อเป็นหลักฐานการจัดส่ง
    2. ในกรณีที่ผู้รับไม่ใช่ผู้รับมอบ ผู้จัดส่งของเราจะพยายามยืนยันตัวตนของผู้รับอย่างสมเหตุสมผล จำเป็นต้องมีลายเซ็นของผู้รับดังกล่าวเพื่อเป็นหลักฐานการจัดส่ง
    3. ในกรณีพิเศษที่ไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ ผู้จัดส่งของเราจะเขียนเป็นหมายเหตุไว้ บางครั้งไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้รับซึ่งเป็นผู้ไร้ความสามารถ
  8. การจัดส่งไม่สำเร็จ

    1. อาจเกิดการจัดส่งไม่สำเร็จได้จากเหตุผลต่างๆ เช่น
      1. ผู้รับมอบปฏิเสธการจัดส่งหรือจ่ายเงินเรียกเก็บเงินปลายทาง
      2. ไม่สามารถระบุหรือบอกตำแหน่งของผู้รับมอบได้อย่างสมเหตุสมผล
      3. ไม่มีบุคคลที่เหมาะสมรอรับพัสดุตามที่อยู่ของผู้รับมอบ
      4. พัสดุกำลังรอดำเนินการจากผู้รับมอบ (เช่น โทรกลับเพื่อยืนยันการจัดส่ง รับพัสดุที่จุดบริการของเรา เลื่อนการจัดส่งเป็นต้น)
    2. ประมาณวันที่จัดส่ง กรณีที่การจัดส่งไม่สำเร็จในครั้งแรก เราจะพยายามจัดส่งพัสดุให้อีกครั้งหนึ่งภายใน 2 วันทำการภายใน 7 วันทำการถัดไปโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เช่น พยายามจัดส่งสูงสุด 3 ครั้ง) ถ้าผู้ส่งสินค้าเลือกที่จะไม่ใช้บริการ “จัดส่งวันเสาร์” วันเสาร์จะไม่นับเป็นวันทำงานตามข้อนี้
    3. ถ้าเราเชื่อว่าข้อมูลของผู้รับมอบจากผู้ส่งสินค้าไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ เราจะพักพัสดุไว้และขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ส่งสินค้า
  9. การจัดส่งล่าช้า

    1. ‘การจัดส่งล่าช้า’ หมายถึงการจัดส่งที่เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งใช้เวลาเกินกว่าวันที่จัดส่งโดยประมาณ วันที่จัดส่งที่กำหนดเป็นเพียงการประมาณเท่านั้นและไม่มีการรับประกัน
    2. ขณะที่เราพยายามส่งมอบพัสดุอย่างเหมาะสมตามตารางเวลาการจัดส่ง เวลาจะไม่ถือเป็นสาระสำคัญในแง่ของการจัดส่งพัสดุ และเราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายโดยตรงหรือโดยอ้อมที่เกิดจากความล่าช้าในการจัดส่ง
  10. พัสดุที่ไม่ได้ส่งมอบและการส่งคืนพัสดุ

    1. จะถือว่าพัสดุนั้นยัง “ไม่ได้ส่งมอบ” ในบางกรณี เช่น
      1. การจัดส่งซ้ำไม่สำเร็จ
      2. ไม่สามารถจัดส่งพัสดุได้ภายใน 7 วันทำการตามประมาณวันที่จัดส่ง
      3. ผู้ส่งสินค้าไม่สามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมตามคำขอของเรา หรือ
      4. ผู้ส่งสินค้าขอยกเลิกการจัดส่งและ / หรือส่งคืนพัสดุด้วยเหตุผลใดก็ตาม
    2. พัสดุที่ไม่ได้ส่งมอบจะถูกส่งกลับไปให้ผู้ส่งสินค้าโดยผู้ส่งสินค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย หากไม่มีผู้รับเราจะทำการปล่อยพัสดุ จำหน่ายหรือขายโดยไม่ต้องรับผิดใดๆ ต่อผู้ส่งสินค้า หรือบุคคลอื่น โดยเงินที่ได้นำไปใช้กับค่าบริการและค่าใช้จ่ายในการบริหารและดุลยอดขายที่จะต้องคืนผู้ส่งสินค้า (ถ้ามี)
    3. ไม่สามารถขอคืนค่าธรรมเนียมการจัดส่งทั้งหมดและค่าใช้จ่ายอื่นที่จ่ายเพื่อส่งพัสดุได้
    4. พัสดุอาจถูกส่งไปยังที่อยู่ของผู้ส่งสินค้าโดยตรงหรือไปยังจุดบริการของเราซึ่งผู้ส่งสินค้าเป็นคนกำหนดไปรับ
    5. ถ้าจะส่งพัสดุที่ส่งคืนแล้วไปยังที่อยู่ของผู้ส่งสินค้า ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อ 6 ถึง 9
    6. ถ้าจะรับพัสดุที่ส่งคืน ณ จุดบริการที่ผู้ส่งสินค้ากำหนด เราจะติดต่อผู้ส่งสินค้าในวันที่พัสดุมาถึงและผู้ส่งสินค้าจะต้องไปรับพัสดุดังกล่าวภายใน 7 วันทำการ หากไม่มีผู้รับเราจะทำการปล่อยพัสดุ จำหน่ายหรือขายโดยไม่ต้องรับผิดใดๆ ต่อผู้ส่งสินค้า หรือบุคคลอื่นโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยเงินที่ได้นำไปใช้กับค่าบริการและค่าใช้จ่ายในการบริหารและดุลยอดขายที่จะต้องคืนผู้ส่งสินค้า (ถ้ามี)
  11. ค่าจัดส่งและค่าใช้จ่ายอื่น

    1. ผู้ส่งสินค้าจะต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมการจัดส่ง และคำนวณตามวิธีการต่อไปนี้
      1. น้ำหนักขนาด หรือ
      2. การเปรียบเทียบขนาดของพัสดุ (ผลรวมของความยาว ความกว้างและความสูง) และน้ำหนัก สำหรับวิธีนี้ขนาดและน้ำหนักที่แตกต่างกันจะมีช่วงราคาต่างกันและค่าจัดส่งพัสดุที่เกิดขึ้นจริงจะขึ้นอยู่กับช่วงราคาของขนาดหรือน้ำหนัก แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
    2. นอกจากนี้ยังอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการรับสินค้า ค่าบริการเก็บเงินปลายทาง ค่าธรรมเนียมประกันภัย ค่าบริการจัดส่งวันเสาร์ ค่าแรง ค่าคืนพัสดุ ค่าบริการด่วนพิเศษ ฯลฯ ในการส่งพัสดุ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  12. บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) และค่าบริการเก็บเงินปลายทาง

    1. หากคุณเลือกบริการเก็บเงินปลายทาง ผู้ส่งสินค้า จะต้องชำระค่าบริการเก็บเงินปลายทาง จำนวนเงินสูงสุดที่เราสามารถเรียกเก็บปลายทางได้คือ 50,000 บาทต่อ 1 ใบนำส่งสินค้า
    2. บริการเก็บเงินปลายทางไม่ทำให้เราเป็นตัวแทนของผู้ส่งสินค้า หรือก่อให้เกิดภาระผูกพันระหว่างเรากับผู้รับมอบ
    3. ผู้ส่งสินค้ายอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรับชำระเงิน รวมทั้งการไม่ชำระเงิน เงินไม่เพียงพอและการปลอมแปลง
  13. การแก้ไขที่อยู่และการกำหนดเส้นทางใหม่

    1. หากผู้ส่งสินค้าไม่สามารถให้ที่อยู่ทั้งหมดหรือที่ถูกต้องของผู้รับมอบได้ เราจะพยายามค้นหาที่อยู่ที่ถูกต้องและส่งมอบพัสดุ หากไม่สำเร็จ เราจะพยายามติดต่อผู้ส่งสินค้าเพื่อขอคำแนะนำ หากต้องกำหนดเส้นทางใหม่หลังจากผู้ส่งสินค้าระบุที่อยู่ที่ถูกต้องใหม่ อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
    2. หากผู้รับมอบขอเปลี่ยนที่อยู่ในการจัดส่ง ผู้รับมอบจะต้องติดต่อผู้ส่งสินค้าซึ่งจะให้คำแนะนำในการกำหนดเส้นทางใหม่
    3. การกำหนดเส้นทางใหม่จะต้องชำระค่าบริการเพิ่มเติม
  14. สิทธิในการตรวจสอบ

    1. เราขอสงวนสิทธิ์ในการเปิดและตรวจสอบพัสดุ โดยไม่ต้องแจ้งให้คุณทราบเพื่อความปลอดภัย ความมั่นใจ ศุลกากรหรือตามกฎระเบียบ
    2. ในทำนองเดียวกันมีโอกาสที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจต้องเปิดและตรวจสอบพัสดุบางชิ้น เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวอย่างเต็มที่ ซึ่งในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้จัดส่งสินค้าหรือผู้รับมอบทราบล่วงหน้า
  15. ความรับผิดของเรา

    1. ความรับผิดของเราในพัสดุใดๆ นั้นจะจำกัดเพียงการสูญเสียและความเสียหายโดยตรงและรวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 ใบนำส่งสินค้า เว้นเสียแต่ว่ามีการระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อตกลงร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ส่งสินค้าและเรา และขึ้นอยู่กับการชำระเงินค่าธรรมเนียมประกันภัยของผู้ส่งสินค้า
    2. เราจะไม่รับผิดภายใต้สถานการณ์ดังต่อไปนี้
      1. การสูญหายหรือความเสียหายต่อพัสดุที่บรรจุรายการดังระบุในข้อ 3.1
      2. การสูญหายหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการส่งมอบพัสดุที่ล่าช้า
      3. การสูญหายหรือความเสียหายต่อพัสดุเนื่องจากสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา (ดูข้อ 16) หรือ
      4. การสูญเสียหรือความเสียหายทางอ้อมหรือที่เป็นผลจากการกระทำอื่น
  16. สถานการณ์นอกเหนือการควบคุมของเรา

    1. เราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
      1. ความเสียหายของข้อมูลเนื่องจากผลกระทบจากสนามแม่เหล็กของพัสดุอื่น
      2. การกระทำหรือการละเลยโดยบุคคลที่ไม่ได้ทำงานหรือทำสัญญากับเรา เช่น ผู้ส่งสินค้า ผู้รับมอบ บุคคลที่สาม ศุลกากรหรือเจ้าหน้าที่รัฐ
      3. เหตุสุดวิสัย เช่น สงคราม (ทั้งที่ประกาศหรือไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ) รัฐประหาร การก่อกบฏ การปฏิวัติ การก่อการร้าย การจับตัวประกัน เหตุระเบิด หรือการใช้อาวุธสงคราม หรือปฏิกิริยาตอบโต้การกระทำเหล่านี้ รวมทั้งการยึดพัสดุ การนัดหยุดงานของพนักงาน เหตุสุดวิสัย (เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ ฯลฯ)
  17. การยื่นข้อร้องเรียน

    1. หากคุณต้องการเรียกร้องในกรณีที่เกิดความเสียหายหรือพัสดุสูญหายบางส่วน คุณต้องยื่นข้อร้องเรียนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรต่อทีมรับข้อร้องเรียนของเคอรี่เอ็กซ์เพรสภายในสิบสี่ (14) วันตามหลังจากส่งมอบ
    2. หากคุณต้องการเรียกร้องค่าเสียหายในพัสดุทั้งหมด คุณต้องยื่นข้อร้องเรียนของคุณเป็นลายลักษณ์อักษรต่อ ทีมรับข้อร้องเรียนของเคอรี่เอ็กซ์เพรสภายในสิบสี่ (14) วันนับจากวันที่เราได้รับการยืนยัน
    3. จำกัดเพียงหนึ่งข้อร้องเรียนต่อใบนำส่งสินค้า
    4. คุณต้องส่งเอกสารต่อไปนี้เพื่อดำเนินการกับการเรียกร้องดังกล่าว
      1. แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหม (จากทีมรับข้อร้องเรียนของเคอรี่เอ็กซ์เพรสหรือ ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม)
      2. สำเนาบัตรประชาชนไทย (สำหรับคนไทย) หรือหนังสือเดินทาง (สำหรับคนที่ไม่เป็นชาวไทย)
      3. หลักฐานเอกสารที่มีมูลค่า เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ บันทึกการทำธุรกรรมของธนาคารพร้อมโฆษณาบนเว็บไซต์ เป็นต้น
      4. (หากเรียกร้องในนามของบริษัท) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทของคุณ
      5. (หากเรียกร้องพัสดุที่ได้รับความเสียหาย) รูปภาพพัสดุที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงวัสดุและวิธีบรรจุหีบห่อ
    5. เราจะไม่ดำเนินการข้อร้องเรียนใดๆ จนกว่าคุณจะชำระค่าขนส่งทั้งหมดและคุณจะไม่สามารถหักจำนวนเงินค่าทดแทนของคุณจากค่าใช้จ่ายเหล่านั้นได้
    6. เราขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกคืนพัสดุที่ได้รับความเสียหายจากคุณตามเงื่อนไขการชดเชย
  18. กฎหมายที่บังคับใช้

    ข้อตกลงและเงื่อนไขจะอยู่ภายใต้กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยและคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายอยู่ใต้เขตอำนาจศาลแห่งราชอาณาจักรไทยโดยไม่อาจเพิกถอนได้

  19. การบริการแบบเรียกรถเข้ารับพัสดุ

    ค่าบริการขั้นต่ำการส่งพัสดุแบบเรียกรถเข้ารับคิดเป็นเงิน 100 บาทในกรณีที่ลูกค้ามีค่าบริการเข้ารับพัสดุไม่ถึง 100 บาทลูกค้าจะต้องชำระค่าบริการเข้ารับพัสดุขั้นต่ำจำนวน 100 บาท ยกตัวอย่างเช่นหากลูกค้าต้องการส่งพัสดุจำนวน 2 ชิ้นแบบเรียกรถเข้ารับโดยค่าบริการทั้งหมดเป็น 80 บาท ทั้งนี้ลูกค้าจะต้องชำระค่าบริการที่ 100 บาทเนื่องจากยอดชำระรวมน้อยกว่าค่าบริการขั้นต่ำ

Malcare WordPress Security